วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เผยโฉม Samsung Galaxy S7

ล่าสุดทางผู้ผลิตเคสชื่อดังอย่าง ITSKINS เผยภาพสินค้าของ Samsung Galaxy S7, Galaxy S7 Edge และ Galaxy S7 Edge Plus ออกมาแล้วครับก่อนงานเปิดตัวซะอีก ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากเมื่อพิจารณาจากข่าวลือที่ผ่านมาว่าจะมีแนวโน้มหน้าตาออกมาประมาณนี้นะครับ

ซึ่งเจ้า Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 Edge จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 5.2 นิ้วส่วน Samsung Galaxy S7 Plus และ Galaxy S7 Edge Plus จะมีขนาดหน้าจอถึง 6 เลยทีเดียว (ขนาดเดิมของรุ่นที่แล้วอยู่ที่ 5.7 นิ้ว)

Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 Plus

จะเห็นได้ชัดเจนว่าตัวเครื่องกลับมามีความโค้งมน น่าจะจับถือได้ถนัดกว่ารุ่นก่อน (ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจหลายๆคนที่ชอบมือถือทรงเหลี่ยมๆ) และปุ่ม Home ที่ดูกว้างขึ้นช่วยให้มีพื้นที่แสกนลายนิ้วมือได้มากกว่าเดิม แต่สังเกตุปุ่มที่ด้านข้างตัวเครื่องวางตำแหน่งแปลกๆ และมีช่องให้ใส่ซิมและอาจจะกลับมาสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วยนะครับ ต้องรอดูกันต่อไป

Samsung Galaxy S7 Edge และ Galaxy S7 Edge Plus

ตามข่าวลือ Samsung Galaxy S7 จะมีขนาดอยู่ที่ 143.37 x 70.8 x 6.94 มม. ส่วนทาง Samsung Galaxy S7 Plus จะมีขนาดอยู่ที่ 163.32 x 82.01 x 7.82 มม. และน่าจะใช้ 2 ชิปเว็ตทำตลาดในแต่ละประเทศได้แก่ Exynos 8890 และ Snapdragon 820 ซึ่งในบ้านเราก็ต้องมาลุ้นกันครับ แต่มีแนวโน้มนะว่าน่าจะเลือก Snapdragon 820 มาทำตลาดเมื่คำนึงถึงความนิยมในบ้านเราแล้ว แต่ก็เป็นไปได้อีกละครับว่า Samsung จะไม่แคร์5555 แต่ส่วนตัวผมเองไม่ว่าจะใช้ชิปเซ็ตตัวไหนใน 2 ตัวนี้ผมก็โอเคทั้งคู่เลยนะ ผมว่า Exynos มันแจ๋วมากแล้วครับต่างจากเมื่อก่อน

และสำหรับวันวางจำหน่ายน่าจะเป็นในเดือนมีนาคมครับ ส่วนวันเปิดตัวก็ในเดือนกุมภาพันธ์ก่อนงาน CES 

ที่มา:https://www.appdisqus.com/2015/12/29/samsung_galaxy_s7_renders.html

Android 6.0.1 บน Samsung Galaxy S6 Edge มาแล้ว!

ล่าสุดมีคลิปวีดีโอการทำงานของ Android 6.0.1 บน Samsung Galaxy S6 Edge เผยแพร่ออกมาครับ ซึ่งน่าอิจฉามากๆเพราะตอนนี้ยังไม่ปล่อยอัพเดตทาง OTA นะครับต้องอดใจรอกันหน่อย ซึ่งจากคลิปจะเห็นว่าทาง Samsung ปรับแต่งมาดีมากทีเดียวครับ มีอะไรใหม่ๆที่ดูน่าสนใจ และมีฟังก์ชั่นใหม่ๆที่เอื้อให้เกิดประโยชน์กับหน้าจอโค้ง โดยแอพพลิเคชั่นจะถูกแบ่งเป็น 2 จำพวกได้แก่ Edge feeds เพื่อรับข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว Edge panels เพื่อเข้าถึงแอพพลิเคชั่นและการทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยจะรวมฟังก์ชั่นอย่าง Quick Tools, S Planner, Weather, Twitter, Yahoo และ Sports และสามารถไปดาวน์โหลดความสามารถเพิ่มเติมได้ที่ Galaxy Store

อีกไม่นานก็น่าจะได้อัพเดตกันถ้วนหน้าแล้วนะครับนอกจาก Samsung Galaxy S6 Edge แล้วรุ่นอื่นๆของ Samsung ที่จะได้อัพเดตในช่วงนี้ได้แก่ Samsung Galaxy Note 5, Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 Edge Plus ที่มีแนวโน้มจะได้อัพเดตผ่าน OTA ในเดือนมกราคมนี้แล้ว

Samsung Galaxy A9 อาจวางจำหน่ายด้วยราคาประมาณ 16,500 บาทเท่านั้น

นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับเสียงฮือฮาในระดับหนึ่งเลยครับสำหรับ Samsung Galaxy A9 ที่ล่าสุดได้รับการเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการเไปมื่อสัปดาห์ก่อน เพราะด้วยความที่ว่าสมาร์ทโฟนซีรี่ย์ A ตัวนี้มาพร้อมกับสเปคที่ต้องบอกเลยว่าเป็นรุ่นน้องเรือธงเพียงนิดเดียว แต่มันกลับถูกจัดอยู่ให้ในสมาร์ทโฟนในระดับ Mid-range เท่านั้น และอย่างที่เราทราบกันดีว่าเรื่องของราคาและกำหนดการวางจำหน่ายของสมาร์ทโฟนตัวนี้จะถูกเปิดเผยออกมาในภายหลัง ซึ่งก็เหมือนว่าเวลาที่เรารอคอยจะมาถึงแล้วครับ (ถึงจะไม่ใช่แบบเป็นทางการก็ตาม)

gsmarena_001 (1)

โดยล่าสุดนั้นได้มีข้อมูลราคาของเจ้า Samsung Galaxy A9 หลุดออกมาผ่านทาง Weibo ว่าสมาร์ทโฟนตัวนี้จะวางขายอยู่ที่ราคา 495$ หรือคิดเป็นเงินไทยจะตกประมาณ 16,500 บาทเท่านั้น ซึ่งหากว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริงล่ะก็บอกเลยครับว่า มันเป็นเครื่องที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีๆในราคาเบาๆอยู่

เพราะด้วยค่าเสียหายราวๆ 16,500 บาท จะทำให้เราได้สมาร์ทโฟนที่มีชิพเซท Snapdragon 652 หน้าจอ Super AMOLED 6 นิ้ว 1080 x 1920 แถมมาด้วย RAM อีก 3GB และความจุภายใน 32GB รองรับ microSD Card ส่วนตัวแล้วมองว่าคุ้มค่าในระดับหนึ่งเลยครับ

นอกจากนี้ยังมีกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 21MP และกล้องหน้าความละเอียด 8MP มาให้ เท่านั้นยังไม่พอเพราะแบตเตอรี่ที่ให้มาก็มีความจุสูงถึง 4,000 mAh เพื่อรองรับความต้องการของหน้าจอขนาด 6 นิ้วอีก นับเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจจริงๆครับ และคาดว่าหากเข้ามาไทยแล้วน่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีพอสมควรเลย

พัฒนาการ แว่นสุดล้ำของ Google รุ่น Enterprise Edition ทนทานและพับเก็บได้!

google-glass-enterprise-edition

อัพเดตข่าวคราวของแว่นตาสุดล้ำ ของทาง Google กันบ้าง หลังจากที่ได้หยุดการขายอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงต้นปี แต่โครงการในการพัฒนาแว่นตาสุดล้ำตัวนี้ก็ยังคงดำเนินการต่อไป ล่าสุดทางคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร หรือ FCC ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับแว่นตาสุดไฮเทค Google Glass รุ่น Enterprise Edition แล้ว 

2015-12-29_161818
โดยในการพัฒนาครั้งนี้จะเห็นได้ชัดว่ามีการปรับปรุงชุดใหญ่จากโมเดลรุ่นก่อนอย่างรุ่น Explorer model  ไม่ว่าจะเป็นเลนส์โฟกัสที่เรียบเนียนมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะทนทานมากขึ้น ทั้งนี้ยังออกแบบให้จอกระจกปริซึมแสดงผลให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและขาแว่นสามารถพับเก็บได้สำหรับเวลาเดินทาง นอกจากนี้ภาพการทดสอบยังเผยให้เห็นถึงพื้นที่สำหรับใส่แบตเตอรี่แบบใหม่เพื่อเพิ่มเวลาการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และการใช้ซีพียู Intel Atom จะเร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

2015-12-29_161835
รูปภาพจากเว็บไซต์ 9to5google.com

ถึงแม้ว่าทาง FCC จะออกมาใบ้ให้เล็กน้อยเกี่ยวกับข่าวคราวของแว่นตาสุดล้ำตัวนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่าทาง Google จะออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นนี้เมื่อไหร่ และยังไม่มีทีท่าที่ทาง Google จะเริ่มกลับมาทำแผนการขายสำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้อย่างเป็นทางการ คงต้องรอดูและติดตามข่าวคราวกันต่อไป

ช้อปช่วยชาติ ซื้อมือถือ อุปกรณ์ไอที สิ้นปีนี้อย่างไร นำมาลดภาษีได้ตามเกณฑ์ลดหย่อนค่าใช้จ่าย 15,000 บาท

ช้อปช่วยชาติ ช้อปปิ้งคืนภาษี นับว่า เป็นข่าวส่งท้ายปี 2558 ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง กับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการซื้อสินค้าหรือใช้บริการระหว่างวันที่ 25-31 ธันวาคม 2558 เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งมีสินค้าหลายรายการ รวมไปถึงสินค้าไอที ที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยเช่นกัน

นอกเหนือจากการซื้อสินค้าตามร้านค้าแล้ว การซื้อสินค้าแบบออนไลน์ ก็เข้าข่ายสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่จะต้องขอ "ใบกำกับภาษีแบบเต็ม" เท่านั้น ไม่สามารถใช้ใบเสร็จรับเงินแบบธรรมดาได้ ฉะนั้น ก่อนจะทำการซื้อสินค้าออนไลน์ จะต้องตรวจสอบก่อนว่า สามารถขอใบกำกับภาษีแบบเต็มได้หรือไม่

สำหรับเว็บไซต์ที่จำหน่าย มือถือออนไลน์ มีอยู่หลายเว็บไซต์ด้วยกัน ซึ่งได้แก่ Lazada, iTruemart หรือ Cdiscount แต่ก็มีข้อแม้บางประการที่ผู้ซื้อ จะต้องทำความเข้าใจก่อนจ่ายเงินด้วยเช่นกัน โดยทางเว็บไซต์ techmoblog ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ การซื้อสินค้าไอทีออนไลน์ ซื้อมือถือออนไลน์ มาให้กันแล้ว เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่าน ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และมั่นใจได้ว่า สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้แน่นอน

Lazada

สำหรับสินค้าไอทีที่วางจำหน่ายบนเว็บไซต์ Lazada นั้น จะเข้าข่ายนำไปลดหย่อนภาษีได้ เฉพาะสินค้าที่จัดจำหน่ายโดย Lazada และร้านค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น เนื่องจากทาง Lazada ไม่ได้วางจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว แต่มีร้านค้าตัวแทนฝากขายอยู่เป็นจำนวนมาก ฉะนั้น ถ้าหากจำเป็นต้องซื้อสินค้าดังกล่าวกับร้านตัวแทน ควรจะสอบถามข้อมูลให้แน่ชัดเสียก่อนว่า สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้หรือไม่

รายละเอียดเพิ่มเติม ช้อปลดภาษีจาก Lazada : http://www.lazada.co.th/big-bonus-payday-tax-reduction/

iTrueMart

ด้าน iTrueMart ก็ตอบรับช้อปช่วยชาติเช่นกัน โดยที่หน้าเว็บไซต์ จะมีการบอกขั้นตอนการขอใบกำกับภาษีอย่างละเอียด ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.itruemart.com/shop/tax-15000 หรือ Call Center : 02-900-9999

Cdiscount

นอกเหนือจาก Lazada และ iTrueMart แล้ว Cdiscount เป็นแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์อีกรายหนึ่ง ที่สามารถซื้อ มือถือออนไลน์ ได้เช่นกัน โดยสามารถขอใบกำกับภาษีฉบับเต็มเพื่อนำไปลดหย่อนได้ ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ http://www.cdiscount.co.th/specialpromo/tax-deduction/v-252707-0.html หรือ Call Center : 02-106-8266

อย่าเข้าใจผิดว่า ซื้อแล้ว จะลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท!

มีหลายๆ ท่านที่เห็นนโยบายดังกล่าว ก็รีบช้อปอย่างเต็มที่ เพราะคิดว่า สามารถนำไปลดภาษีได้ถึง 15,000 บาท ซึ่งจริงๆ แล้ว จะลดภาษีได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่า ฐานภาษีที่เราต้องจ่าย อยู่ที่เท่าใด เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ทางทีมงาน ได้ทำตารางสรุปมาให้แล้ว มาดูกันดีกว่าครับ

จากตารางข้างต้น สมมติว่า ซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่ง ในราคา 10,000 บาท และมีรายได้สุทธิทั้งปีอยู่ที่ 150,001 - 300,000 บาท นั่นหมายความว่า จะได้เงินคืนภาษีอยู่ที่ 10,000 x 5% = 500 บาท ยิ่งช้อปน้อยลง ก็จะลดหย่อนภาษีได้ลดลงด้วย ส่วนผู้ที่มีรายได้สุทธิต่อปี ไม่เกิน 150,000 บาท ต่อให้ซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการ ช้อปช่วยชาติ ก็ไม่ได้รับเงินคืนภาษีอยู่ดี เนื่องจากได้รับยกเว้นภาษีนั่นเองครับ

สินค้าหรือบริการอะไรบ้าง ที่เข้าข่ายลดหย่อนภาษี

 รู้รายละเอียดและเงื่อนไขกันแล้ว ท่านใดที่มีแพลนจะซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ในช่วงวันที่ 25-31 ธันวาคม 2558 นี้ อย่าลืม "ขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ" ทุกครั้งที่ซื้อสินค้าและบริการนะครับ

ภาพหลุด Samsung Galaxy J1 (2016) รุ่นสานต่อ อัปเกรดสเปคใหม่ แรงกว่าเดิม เปิดตัวปีหน้า

คาดว่าน่าจะมีรุ่นสานต่อในเร็วๆ นี้เสียแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy J1 สมาร์ทโฟนระดับล่างรุ่นขายดี ที่ล่าสุด ได้มีภาพหลุด Samsung Galaxy J1 (2016) รุ่นอัปเกรดออกมาให้ชมกัน พร้อมสเปคที่แรงไปอีกขั้น แต่ยังคงระดับราคาย่อมเยาเหมือนเช่นเคย

โดย Samsung Galaxy J1 (2016) รุ่นนี้ จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว (อัปเกรดจาก 4.3 นิ้ว) ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล, ชิปเซ็ต Exynos 3457 แบบ Quad-Core Processor, หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T720 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB และรัน Android 5.1.1 (Lollipop)

สำหรับกำหนดการเปิดตัว Samsung Galaxy J1 (2016) คาดว่า น่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้า

บุกดีแทค กับโปรโมชั่น ย้ายค่ายเบอร์เดิม ซื้อ iPhone 6S หรือ iPhone 6S Plus รับส่วนลดค่าบริการ 50% นาน 12 เดือน และส่วนลดค่าเครื่อง 1,200 บาท แบบไม่ติดสัญญาผูกมัด!

สำหรับผู้ที่อยากได้ iPhone 6S หรือ iPhone 6S Plus อยู่ในตอนนี้ ทางดีแทค (dtac) มีโปรโมชั่นพิเศษกับ "ย้ายค่ายเบอร์เดิม" ซึ่งนอกจากจะได้รับส่วนลดค่าเครื่อง มูลค่า 1,200 บาท จากราคาปกติแล้ว ยังได้รับ ส่วนลดค่าบริการรายเดือนถึง 50% นาน 12 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Love & Roll เต็ม Max หรือ Love & Roll Non-Stop ตั้งแต่ 799 ขึ้นไป (มูลค่าก่อนรับส่วนลด 50%) อีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ประกอบกับในช่วงนี้ กำลังอยากได้ iPhone 6S สีใหม่อย่าง Rose Gold พอดิบพอดี จึงไม่รอช้า บุก dtac Center เพื่อทำการย้ายค่ายครับ

แต่ก่อนจะทำการบุก dtac Center เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ขั้นตอนการย้ายค่ายสักเล็กน้อย ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินงานที่ง่าย และไม่นานอย่างที่คิด มาดูกันว่า ทำอย่างไรบ้าง

ขั้นตอนที่ 1 : เคลียร์ค่าใช้จ่ายกับค่ายเดิม

ขั้นตอนนี้ถือว่า สำคัญมากเลยทีเดียว โดยผู้ใช้บริการจะต้องทำการติดต่อค่ายเดิม เพื่อดำเนินการขอย้ายค่าย ซึ่งผู้ใช้บริการแบบรายเดือน จะต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด และไม่ติดสัญญาใดๆ ส่วนผู้ใช้บริการแบบเติมเงิน ยอดเงินที่เหลือ จะไม่สามารถโอนมายัง dtac ได้

ขั้นตอนที่ 2 : กรอกแบบฟอร์ม และยื่นเอกสารกับ dtac

การกรอกแบบฟอร์ม สามารถเลือกกรอกได้ทั้งแบบออนไลน์ หรือสามารถมากรอกแบบฟอร์มได้ที่ศูนย์บริการ dtac พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน จากนั้น รอรับซิมการ์ดใหม่ ซึ่งสามารถนำใบแจ้งค่าบริการของค่ายเดิม มาใช้ยืนยันชื่อ-นามสกุลที่ลงทะเบียนไว้ได้

ขั้นตอนที่ 3 : รอดำเนินการย้ายค่าย ภายใน 3 วัน

หลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จสิ้นแล้ว ให้รอการดำเนินการย้ายค่าย ภายในเวลา 3 วัน โดยวันแรก และวันที่สอง ให้ใช้ซิมการ์ดของค่ายเดิมไปก่อน และรอรับ SMS ยืนยันการขอโอนย้าย ส่วนวันที่ 3 สามารถเปลี่ยนซิมการ์ดเป็นของ dtac ได้เลยทันที พร้อมรอรับ SMS ต้อนรับและยืนยันโปรโมชั่นจากดีแทค

ทำความเข้าใจกับขั้นตอนการย้ายค่ายเบอร์เดิมกันไปแล้ว เราจะมาบุก dtac กันครับ

มาถึงแล้วครับ dtac Center วันนี้โชคดีสุดๆ คนไม่ค่อยเยอะมาก

หยิบโบรชัวร์ขึ้นมาอ่านทำความเข้าใจอีกสักรอบ

จากเงื่อนไข ระบุว่า จะต้องเป็นแพ็กเกจ Love & Roll เต็ม Max หรือ Love & Roll Non-Stop ตั้งแต่ 799 ขึ้นไป เลยตัดสินใจเลือกแพ็กเกจ Love & Roll Non-Stop 899 รับส่วนลด 50% เหลือ 449 บาทต่อเดือน ซึ่งรับสิทธิ์ โทรฟรีทุกเครือข่าย 400 นาที, Internet 4G/3G/EDGE 6 GB + 6 GB (นาน 12 เดือน) และ พื้นที่เก็บรูปและวิดีโอ 50 GB

เล็งไว้แล้วเรียบร้อย กับ iPhone 6S สีชมพู Rose Gold ลองจับตัวเครื่องอีกสักรอบ เพื่อความมั่นใจ

และก็ตัดสินใจกดบัตรคิวเพื่อรอ โชคดีมากๆ ไม่มีคิวเลย

ลงทะเบียน และกรอกข้อมูลต่างๆ เพื่อทำการย้ายค่าย พร้อมกับแนบสำเนาบัตรประชาชน

รับซิมไปนอนกอดให้อุ่นใจไว้ก่อน จากนั้นรอดำเนินการ 3 วัน แล้วค่อยมาซื้อ iPhone 6S สีชมพู Rose Gold ในราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจ พร้อมรับส่วนลดค่าเครื่อง 1,200 บาท

หลังจากครบ 3 วัน ก็เดินทางไปยังศูนย์บริการอีกครั้ง เพื่อซื้อ iPhone 6S สี Rose Gold สวยถูกใจสุดๆ

ลองใส่ซิมการ์ด dtac ทดสอบสัญญาณเสียหน่อย

สามารถใช้งานได้แล้วครับ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ย้ายค่ายเบอร์เดิม จาก dtac สัญญาณ 4G LTE มาเต็มเลยทีเดียว

อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่า โปรโมชั่นนี้ เฉพาะแพ็กเกจ Love & Roll เต็ม Max หรือ Love & Roll Non-Stop ตั้งแต่ 799 ขึ้นไป (มูลค่าก่อนรับส่วนลด 50%) เท่านั้น มาดูกันดีกว่าว่า แต่ละแพ็กเกจ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

เรียกได้ว่า ใครที่กำลังมองหาโปรโมชั่น iPhone 6S และ iPhone 6S Plus อยู่ในขณะนี้ ถือว่า โปรโมชั่น ย้ายค่ายเบอร์เดิมจาก dtac น่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะได้รับส่วนลดค่าเครื่องแล้ว ยังรับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นานถึง 12 เดือน ซึ่งในส่วนนี้ ไม่ติดสัญญาอีกด้วย อีกทั้ง การดำเนินการย้ายค่าย ก็ทำได้ง่าย และสะดวกกว่าเดิม สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการ dtac ทุกสาขาครับ


หลุดภาพเรนเดอร์ Xiaomi Mi 5 มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home และสเปคแรงถึงใจ ด้วย RAM ขนาด 4 GB!


ถึงแม้ว่า Xiaomi Mi 5 มือถือเรือธงรุ่นถัดไป จะยังไม่เปิดตัวในตอนนี้ แต่ก็ยังคงมีข่าวคราวเคลื่อนไหว อัปเดตให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด มีทั้งภาพเรนเดอร์ และคลิปวีดีโอ ออกมาให้ชมกัน






โดยภาพเรนเดอร์ชุดนี้ เผยให้เห็น Xiaomi Mi 5 มีให้เลือกหลายสีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ, สีทอง, สีชมพู และสีขาว ซึ่งการออกแบบตัวเครื่อง เน้นความโค้งมนมากขึ้น ทั้งรอบๆ ตัวเครื่อง ใช้กระจกหน้าจอโค้งแบบ 2.5D และกระจกด้านหลังแบบ 3D นอกจากนี้ ยังเพิ่มปุ่ม Home เข้ามา แทนที่ปุ่มแบบสัมผัสในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งน่าจะเป็นตำแหน่งของ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ อีกด้วย


สำหรับสเปคของ Xiaomi Mi 5 นั้น คาดว่า จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 820 แบบ Quad-Core Processor, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ขนาด 3030 mAh - androidauthority.com

ภาพเรนเดอร์แรก Xiaomi Mi5 มาแล้ว! คาดมาพร้อมหน้าจอ 2K และกล้องด้านหลัง 21 ล้านพิกเซล เคาะราคาแค่หมื่นต้นๆ
เหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ ก็จะถึงเวลาเปิดตัว Xiaomi Mi5 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีกำหนดการเปิดตัวในช่วงต้นปี 2016 นี้ ซึ่งล่าสุด ได้มีภาพเรนเดอร์แรกของ Xiaomi Mi5 ออกมาให้ชมกันแล้ว
โดยก่อนหน้านั้น เคยมีข่าวลือออกมาว่า Xiaomi Mi5 จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic Fingerprint Scanner ซึ่งสามารถสแกนผ่านหน้าจอได้เลยทันที แต่จากภาพเรนเดอร์ข้างต้น คาดว่า Xiaomi Mi5 จะยังไม่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าว เนื่องจากยังคงมีปุ่ม Home อยู่นั่นเอง โดยคาดว่า Xiaomi Mi5 จะยังสแกนลายนิ้วมือผ่านปุ่ม Home เช่นเดียวกับ สมาร์ทโฟน รุ่นอื่นๆ
สำหรับสเปคของ Xiaomi Mi5 รุ่นนี้ ยังคงเป็นระดับไฮเอนด์เหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD (2K), รองรับเทคโนโลยี Force Touch, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 820, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 21 ล้านพิกเซล และรันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow อินเทอร์เฟสแบบ MIUI 7 โดยจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ RAM 3 GB/ROM 32 GB กับ RAM 4 GB/ROM 64 GB
โดยกำหนดการเปิดตัว Xiaomi Mi5 คาดว่า เป็นวันที่ 21 มกราคม 2016 นี้ ส่วนราคาเปิดตัว น่าจะเริ่มต้นที่ 1,999 หยวน หรือราวๆ 11,500 บาท - gizmochina.com