เหนื่อยไหมกับการต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่เช้า กว่าจะได้กลับบ้านพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว ไหนจะรถติด ไหนจะอากาศที่แสนจะร้อน พอกลับถึงบ้านก็ต้องกลับมาเจอกับปัญหาใหม่ นั้นคือการที่คุณไม่มีเวลาในการทำความสะอาด จึงทำให้ห้องของคุณเต็มไปด้วยฝุ่น หรือเศษผมตามซอก ตามมุมโต๊ะต่างๆ หรือแม้กระทั่งตามออฟฟิต หรือที่ทำงานที่แม่บ้านกวาดไม่ถึง มันก็เต็มไปด้วยเศษขยะชิ้นเล็กๆ มากมายเต็มไปหมด
นวัตกรรมชิ้นนี้ถูกสร้างมาเพื่อช่วยให้การดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ราบลื่น เรียบร้อย สะดวก และสะอาดในขณะที่คุณทำกิจกรรมต่างๆ ไปพร้อมๆ กับการทำความสะอาด แม่บ้านอิเล็อทรอนิกส์ AUTOBOT mini Robot จากบริษัทตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็อทรอนิกส์อย่าง Robot Maker
ซึ่งทาง ไทยแวร์ เองก็ได้ลองเอามาวิ่งเล่นในออฟฟิตกันมาแล้ว เรียกได้ว่าการทำงานเป็นที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง 
คุณสมบัติของ AUTOBOT ตัวนี้
- เจ้าตัวเล็กนี้มีขนาดที่กระทัดรัด
- มีความกว้างเพียง 270 มม.
- และความสูงอยู่ที่ 76 มม.
- มีระบบเซนเซอร์ที่ทำงานด้วยกัน 3 รูปแบบ หมดปัญหากับสิ่งสกปรกกันไปเลย
- Spiral : เคลื่อนที่ในรูปแบบของก้นหอย
- Random : เคลื่อนที่สุ่มเพื่อการทำงานที่มากขึ้น
- Along the wall : เคลื่อนที่ไปตามขอบรอบพื้นที่ห้อง
- ระบบเซนเซอร์ป้องกันการตก โดยวัดพื้นที่ต่างระดับกันที่ 10 ซม.
- สามารถเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ต่างระดับได้ถึง 5 มม.
กล่องของเจ้าตัวน้อยนี้ มีรูปแบบที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว
อุปกรณ์ที่อยู่ภายในกล่อง
- สมุดคำแนะนำ 1 เล่ม
- กระดาษดักฝุ่น 3 แผ่น
- แบตเตอร์รี่ 1 ก้อน
- ที่ชาร์ตไฟ 1 อัน
- แปรงปัดสิ่งสกปรก 1 คู่ 2 อัน
- ไส้กรอง 2 อัน (1 อันอยู่ในกล่อง อีก 1 อันอยู่ในตัวเครื่องดูดฝุ่น)
- ถาดรองกระดาษทำความสะอาด (ติดมากับตัวเครื่องดูดฝุ่น)
- กระดาษทำความสะอาดอเนกประสงค์ชนิดเปียก 1 แพ็ค 30 แผ่น (กระดาษชุบน้ำนี้ไม่ได้แถวมาในกล่องแต่ถูกติดมาข้างกล่อง)
นี้คือเจ้าตัวเล็ก ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องสีขาว ดูสะอาดตากันไปเลยทีเดียว
เรามาขยายดูส่วนที่อยู่บนตัวเครื่องกันเลย ช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่อยู่ใกล้สัญลักษณ์รูปปลั๊กไฟ มันเป็นช่องที่เราจะทำการเสียบชาร์ตแบตเตอร์รี่ เจ้าตัวน้อยกัน ถัดมาจะเป็นสัญญาณไฟบอกสถานะการชาร์ตไฟเจ้า Autobot และตามมาด้วยสวิทช์เปิด – ปิด การทำงานของเครื่อง
ช่องบนของตัวเครื่อง จะเป็นช่องที่เก็บเศษฝุ่น เศษผม เศษขนสุนัข หรือเศษขยะอื่นๆ ที่ตัวเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้ได้ทำการดูดเข้ามา โดยที่ตัวกล่องนั้นจะมีแผ่นกรอง 1 แผ่นอยู่ในกล่อง และยังมีแผ่นพลาสติกเล็กๆ ที่คอยปิด – เปิดเมื่อเศษขยะเข้ามาภายในกล่อง เพื่อป้องกันฝุ่นที่ดูดหลุดออกจากตัวเครื่อง
ในตัวเครื่อง Autobot Mini Robot Vacuum ตัวนี้ ด้านหน้าของตัวเครื่องจะมี แผ่นยางพลาสติก สีดำ พร้อมรอยหยัก อยู่ข้างหน้า เปรียบเสมือนกันชนด้านหน้า ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการชน การปะทะ ซึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในบางรุ่นไม่มีกันชนแบบนี้ ทำให้เวลาไปวิ่งชนวัตถุสิ่งของ หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อาจเป็นรอยได้ง่ายๆ แต่ตัวนี้ ถือว่าดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
เมื่อพลิกเจ้าตัวน้อยนี้ ก็จะพบกับปุ่ม 3 ปุ่มที่สามารถเปลี่ยนระดับได้ถึง 4 ระดับ ซึ่งถ้าดูจากรูปลักษณ์ก็คงสงสัยว่ามันคืออะไร จริงๆ แล้วเจ้าปุ่มนี้มีส่วนในการทำงานเป็นอย่างยิ่งเพราะ มันก็คือการปรับระดับการรับแสง เพื่อให้เซนเซอร์ของตัวเครื่องทำงานได้แม่นยำยิ่งขึ้น เป็นการวัดระดับความสูงของพื้นที่ต่างระดับกัน ป้องกันไม่ให้เครื่องดูดฝุ่นตกลงจากโต๊ะ หรือตกจากพื้นที่มีระดับสูงเกิน 10 ซม. นั้นเอง การทำงานของมันก็คือ ในระดับแรกใช้สำหรับพื้นที่มีสีขาว หรือสีที่ค่อยข้างจะสว่าง ในระดับนี้จะเป็นการลด การรับแสงของช่องให้น้อยลง ในส่วนของระดับที่ 4 ใช้สำหรับการเพิ่มปริมาณการรับแสงให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มแสงสว่างให้กับตัวเซนเซอร์ สำหรับพื้นใครที่สีไม่แสงว่างหรือไม่ดำ แนะนำให้รปับอยู่ที่ระดับ 2 – 3 ก็พอ
สำหรับช่องพลาสติกสีขาวขุนที่กำลังเห็นกันอยู่นี้ เป็นช่องสำหรับการดูดฝุ่น ดูดเศษกระดาษ เศษผม หรือขนสุนัข และแมวที่ร่วงอยู่บนพื้น หรือพรมของคุณ มันทำงานด้วยพลังดูดที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สำหรับขนาดตัวของมัน
แปรงปัดฝุ่นของเจ้าตัวนี้ถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ยาวกว่าเครื่องดูดฝุ่นรุ่น อื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกวาดที่มากขึ้นตามความยาวของมัน ในกล่องจะมีแถมมาให้ 1 คู่ 2 อัน
แบตเตอร์รี่ของเจ้าตัวเล็กนี้ มีพลังไฟที่ 14.4 V ปริมาณของแบตเตอร์รี่ตัวนี้อยู่ที่ 800 mA ซึ่งแบตเตอร์รี่ตัวนี้ ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องที่ 10 – 40 องศาเซลเซียส ห้ามโดนน้ำ และเจ้าแบตเตอร์รี่ตัวนี้อาจเกิดการระเบิดได้ เมื่อมันไปสัมผัสกับไฟ หรือถูกไฟไหม้
อะแดบเตอร์ หรือตัวเสียบชาร์ตไฟ สามารถรับกระแสไฟฟ้าได้ที่กำลัง 100 – 240 mAh จ่ายไฟที่ 19V ความยาวของสายชาร์ตอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร ซึ่งเรียกได้ว่าระยะการเสียบชาร์ตไฟนั้น เสียบชาร์ตได้สบายๆ กันเลยทีเดียว
ถาดรองกระดาษทำความสะอาด หรือถาดใส่กระดาษเช็ดพื้น ตรงนี้หากใครที่ต้องการดูดฝุ่น บนพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ปาร์เก้ ไม้ยาง ต่างๆ จะต้องติดถาดรองกระดาษทำความสะอาดเอาไว้ แต่หากต้องการที่จะดูดฝุ่นบนพรม จะต้องแกะถาดรองกระดาษทำความสะอาดออกไปก่อนการใช้งาน เจ้าถาดรองกระดาษตัวนี้มันจะติดตั้งมาให้กับตัวเครื่องอยู่แล้ว เรามีหน้าที่ต้องแกะออกมาติดตั้งแผ่นทำความสะอาดด้วยตัวเอง วิธีการติดตั้งก็ไม่ยากเลย เพียงแค่กดกระดาษดักฝุ่น หรือ กระดาษทำความสะอาดเข้าไปในช่องทั้ง 4 มุม ให้บุ๋มลงไป (แนะนำว่าถ้าใครมีเล็บก็ควรใช้เล็บกดไปเลยดีที่สุด) ซึ่งทางบริษัทผู้จัดจำหน่ายมีกระดาษให้เลือกอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือกระดาษเปียก กับกระดาษแห้งซึ่งหลักการทำงานก็จะเหมือนกัน แต่การทำงานจริง ในส่วนตัวคิดว่าถ้าใช้กระดาษเปียกจะดีกว่า เพราะมันจะเป็นการถูพื้นไปในตัว เรียกได้ว่า 2 IN 1 กันเลย ได้ทั้งกวาด และถู สบายๆ อย่าบอกใคร
มาเริ่มขั้นตอนการประกอบเครื่องกันเลย
ในการประกอบเครื่องให้พร้อมใช้งานก็ไม่มีอะไรยากเลย เพียงแค่คุณพลิกเจ้าเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้ลง ทำการดึงถาดรองทำความสะอาดออก จะพบกับช่องสำหรับใส่แบตเตอร์รี่ เปิดมันออกมา จะเจอสปริงอยู่ 3 ตัวให้คุณทำการยัดเจ้าแบตเตอร์รี่ตัวนี้ลงไป สังเกตที่รู 3 รูที่ด้านข้างของแบต ทำการใส่แบตโดยที่รู 3 รูนั้นต้องอยู่ด้านล่างเพื่อให้ตรงกับสปริง 3 ตัวของเครื่องดูดฝุ่น เมื่อยัดเจ้าแบตตัวนี้ลงไปเสร็จเรียบร้อยให้ทำการปิดฝาครอบแบตให้สนิทเหมือน เดิม สำหรับถาดรองทำความสะอาดตัวนี้คุณจะใส่มันลงไปเหมือนเดิม หรือจะไม่ใส่ก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้เจ้าเครื่องดูดฝุ่นนี้ทำความ สะอาดแบบใด ตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้น เกี่ยวกับถาดรองทำความสะอาด
แบตเตอรี่ตัวนี้สามารถพร้อมใช้งานได้ทันทีหลังจากแกะกล่องออกมา เพราะตัวแบตจะมีแบตอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งก็มีอยู่มากพอให้คุณได้ลองใช้งาน หรือทดสอบการทำงานของตัวเครื่อง
ต่อมาให้คุณทำการติดแปรงกวาดพื้นทั้ง 2 อันลงไปในตัวเครื่องทั้ง 2 ด้านตามรูปด้านบน สังเกตว่าเมื่อได้ทำการกดตัวแปรงปัดฝุ่นนี้ลงไปในเครื่อง จะมีเสียงดังกรึบ นั้นแสดงว่าคุณได้ทำการติดตั้งแปรงกวาดฝุ่นตัวนี้เรียบร้อยแล้ว เท่านี้คุณก็เริ่มใช้งานเจ้าเครื่องดูดฝุ่นตัวน้อยนี้กันได้เลย โดยกดที่สวิทช์ที่ด้านหน้าของเครื่อง เจ้าตัวน้อยนี้ก็จะเริ่มการทำงานของมันทันที
ผลการทดสอบระดับความดังของเจ้าตัวน้อย อยู่ที่ระดับ 66 เดซิเบล ซึ่งมีระดับความดังที่แตกต่างจากเครื่องดูดฝุ่นตัวใหญ่ๆ อย่างมากเลยทีเดียว
ทดสอบการทำงาน
ทางบริษัทไทยแวร์เองก็ได้ลองนำมาใช้งานดู เพราะทางบริษัทเองก็ต้องจ้างพนักงานมาทำความสะอาดที่บริษัท สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าขณะที่พวกเรากำลังทำงาน แม่บ้านก็จะไม่สามารถทำความสะอาดใต้โต๊ะ หรือเก้าอี้ที่พวกเรากำลังนั่งทำงานอยู่ แน่นอนว่ามันต้องมีทั้งฝุ่น และเศษผม หรือสิ่งสกปรกทั้งหลายที่แม่บ้านไม่ได้เก็บกวาดไป ซึ่งมันมีผลในระยะยาวแน่นอน เพราะยิ่งคนเราสูดดมกลิ่น หรือเศษ ละอองฝุ่นไปมากเท่าไร โรคภัยไข้เจ็บ ก็ก้าวเข้ามาใกล้พวกเราเรื่อยๆ
แต่เมื่อพวกเราได้ AUTOBOT mini Robot Vacuum เจ้า ตัวน้อยนี้มาวิ่งเล่นในออฟฟิตของเรา แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า มันมีพลังดูดฝุ่น หรือเศษผมได้ดีเอามากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูดฝุ่นที่ใต้โต๊ะ ในมุมห้อง หรือแม้กระทั่งการข้ามสิ่งกีดขวางที่พื้นต่างระดับ เจ้าตัวน้อยนี้ก็ทำได้เกินขนาดตัวของมันมากๆ ด้วยขนาดของมันที่มีขนาดเล็ก มันจึงลอดผ่านช่องใต้โต๊ะ หรือช่องของตู้เล็กๆ เจ้าตัวน้อยนี้สามารถเคลื่อนที่ผ่านได้ในระดับความสูง – ต่ำ ไม่เกิน 5 มิลลิเมตร (0.5 เซนติเมตร) นั่นเอง ดังนั้น หากท่านมีพรมเช็ดเท้า หรือขอบกั้นระหว่างห้องนั้น เจ้าตัว Autobot Mini Robot Vacuum ตัวนี้สามารถแล่นฉิว ผ่านได้สบายบรื้อ เลยทีเดียว แต่ถ้าหากพื้นที่ต่างระดับมีขนาดอยู่สูงกว่านั้นก็ไม่ใช่ปัญหา ก็จับมันไปวาง แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมันจัดการต่อไปก็ได้เช่นกัน
บทสรุปของเจ้าตัวน้อย นาม AUTOBOT mini Robot Vacuum หลังจากได้ลองวิ่งในออฟฟิต
หลังจากที่ได้ลองเปิดกล่องเจ้าตัว AUTOBOT mini Robot Vacuum ออกมาวิ่งเล่นในออฟฟิตของบริษัทไทยแวร์สักพัก ก็ขอสรุปการทำงานของเจ้าตัวน้อย ด้านการทำงาน ในมุมมองหนึ่ง ดังต่อไปนี้
ข้อดี
- ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก แค่กดสวิทซ์ก็ใช้งานได้แล้ว
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก จึงสามารถลอดผ่านไปทำความสะอาดในที่แคบๆ ได้สบาย
- ในขณะที่ตัวเครื่องกำลังทำงาน เรียกได้ว่ามีระดับเสียงที่ต่ำกว่าเครื่องดูดฝุ่นทั่วๆ ไป ไม่ส่งเสียงออกมารบกวน เพราะมันจะมีเสียงแค่เหมือนคนกำลังพูดกันในระดับปกติ
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา สามารถพกพาไปตามสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกสบาย
- ตัวเครื่องมีระบบป้องกันการชน จึงไม่ต้องหวงเรื่องของการกระแทก
- แปรงกวาดฝุ่นที่มีมาให้กับเจ้าตัวน้อยนี้มีขนาดที่ยาว จึงสามารถกวาดฝุ่นได้ดีกว่า เครื่องดูดฝุ่นตัวอื่นๆ เรียกได้ว่าแทบทุกซอก ทุกมุมกันเลยทีเดียว
- สามารถวิ่งผ่านที่กั้นห้อง หรือสิ่งกีดขวางที่มีระดับ ไม่เกิน 5.0 mm
- ตัวสวิทซ์อยู่ด้านบนตัวเครื่องจึงไม่มีปัญหาในด้านของฝุ่นที่จะเข้าไปติดค้างอยู่ในสวิทซ์
- เจ้าตัวน้อยนี้มีราคาที่ถูกเอามากๆ เมื่อเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นตัวอื่นๆ
ข้อสังเกต
- เมื่อมีตะปูขวางอยู่ เครื่องจะไม่สามารถทำงานต่อไปได้
- เมื่อแบตเตอรี่หมด เครื่องจะหยุดทำงานทันที หากใช้งานในพื้นที่ ที่มีซอกซอยเยอะ อาจจะหาลำบากหน่อย (แนะนำให้ใช้งานในห้องปิดจะดีกว่า)
- เนื่องจากเจ้าตัวน้อยนี้ มีการทำงานด้วยการใช้ลมในการดูดฝุ่นขึ้นไป จึงไม่สามารถดูดสิ่งสกปรกชิ้นใหญ่ขึ้นไปได้
- กระดาษทำความสะอาด หรือแม้แต่กระดาษดักฝุ่น จำเป็นจะต้องเปลี่ยนบ่อย ซึ่งต่างกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้ออื่น
- กล่องเก็บฝุ่นมีขนาดเล็กจึงต้องทำความสะอาดทุกครั้งที่ใช้งาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น