[รีวิว] Samsung Galaxy Alpha มือถือซัมซุงที่ดีไซน์ที่สุด ด้วยตัวเครื่องแบบโลหะ ดูพรีเมียมและมีสไตล์ พร้อมสเปคที่แรงถึงใจ

.สำหรับ Samsung Galaxy Alpha นับว่าเป็น มือถือซัมซุง ที่กำลังได้รับความสนใจกันในขณะนี้ครับ ซึ่งถ้าหากจะกล่าวว่า Samsung Galaxy Alpha เป็นรุ่นที่ "ขายดีไซน์" ก็คงไม่ผิดนัก เนื่องจากเป็น มือถือซัมซุง รุ่นแรก ที่ใช้กรอบตัวเครื่องแบบโลหะ (Metal Frame) ที่ช่วยทำให้ Samsung Galaxy Alpha รุ่นนี้ ดูพรีเมียม และหรูหรามากทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Alpha ยังเป็นต้นแบบของ Samsung Galaxy Note 4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้อีกด้วย

นอกจากบอดี้ของ Samsung Galaxy Alpha จะเป็นโลหะแล้ว ตัวเครื่องยังบางเฉียบเพียง 6.7 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่า ครบ 3 สูตร "แข็งแรง ทนทาน บางเบา" สัมผัสแล้วต้องบอกเลยว่า บางจริง เบาจริง โดย Samsung Galaxy Alpha มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล, หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Exynos 5 Octa 5430) ประกอบด้วย ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A15 1.8 GHz + Quad-Core ARM Cortex-A7 1.3 GHz, RAM 2 GB, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ขนาด 1860 mAh และรัน Android 4.4.4 (KitKat) แม้จะยังไม่สเปคระดับ High-End แต่ก็ถือว่า จัดเต็มไม่แพ้กัน

สเปค Samsung Galaxy Alpha

- จอแสดงผลกว้าง 4.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (320 ppi)
- ชิปเซ็ต Exynos 5 Octa 5430 (ประกอบด้วย ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A15 1.8 GHz + Quad-Core ARM Cortex-A7 1.3 GHz) หรือ หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 2.5 GHz
- RAM 2 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB ไม่รองรับ microSD card
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
- รัน Android 4.4.4 (KitKat)
- แบตเตอรี่ขนาด 1860 mAh

>> สเปค Samsung Galaxy Alpha อย่างละเอียด คลิกที่นี่

รีวิว Samsung Galaxy Alpha : ดีไซน์ และ การออกแบบ

Samsung Galaxy Alpha มาพร้อมหน้าจอแสดงผลกว้าง 4.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (320 ppi) ซึ่งความละเอียดและคมชัดของหน้าจอ ไม่แพ้ มือถือเรือธง รุ่นอื่นเลยก็ว่าได้ครับ โดยตัวเครื่องด้านหน้า จะมีลวดลายเล็กน้อย

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย Notification Light ไฟแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น ข้อความเข้า, สายที่ไม่ได้รับ หรือชาร์จแบตเตอรี่, ลำโพงสำหรับสนทนา, เซ็นเซอร์ต่างๆ และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ส่วนด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มเมนู และปุ่มย้อนกลับ ซึ่งเป็นปุ่มแบบสัมผัส ส่วนตรงกลาง เป็นปุ่ม Home ซึ่งเป็นตำแหน่งของ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือ Fingerprint Scanner อีกด้วย

สำหรับการสแกนลายนิ้วมือบน Samsung Galaxy Alpha จะต่างจากบน iPhone 5S เล็กน้อย ด้วยการปาดนิ้วจากด้านบน ผ่านปุ่ม Home ลงด้านล่าง ส่วนบน iPhone 5S จะสแกนด้วยการแตะนิ้วค้างไว้ที่ปุ่ม Home

มากันที่ด้านข้างของตัวเครื่องกันบ้าง ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด หรือล็อคหน้าจอแสดงผล ส่วนด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง โดยจากภาพจะเห็นว่า กรอบด้านข้างเป็นโลหะสีทึบ ที่ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน และหรูหรามากกว่าเดิม

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และ ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา, พอร์ต microUSB 2.0 และลำโพงเสียง

สำหรับฝาหลังของ Samsung Galaxy Alpha ยังคงเป็นพลาสติกที่บุด้วยหนังเทียมลวดลายจุด ซึ่งมีข้อดีก็คือ ป้องกันรอยขีดข่วนได้ และไม่ทำให้ตัวเครื่องลื่นหลุดมือ โดยลวดลายจะถี่กว่าของ Samsung Galaxy S5

กล้องด้านหลัง มาพร้อมความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โดยด้านล่างของไฟแฟลช จะเป็น Heart Rate Sensor หรือเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจนั่นเอง

Samsung Galaxy Alpha สามารถถอดแกะฝาหลังได้ รองรับซิมการ์ดแบบ nanoSIM แต่ไม่รองรับ microSD Card ครับ ส่วนแบตเตอรี่ ขนาดความจุอยู่ที่ 1860 mAh

รีวิว Samsung Galaxy Alpha : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น

Samsung Galaxy Alpha มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 (KitKat) ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันล่าสุดอีกด้วย สำหรับการปลดล็อค ให้ปัดหน้าจอ ส่วนการกดปุ่ม Power ค้างไว้ จะเข้าสู่เมนูลัดต่างๆ เช่น ปิดเครื่อง, โหมดเครื่องบิน, รีเฟรช, โหมดฉุกเฉิน, ปิด-เปิดเสียง และระบบสั่น

Notification Center แหล่งแจ้งเตือนการใช้งานต่างๆ ทั้งข้อความ, อีเมล หรือการอัพเดทแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ ยังมีเมนูลัด สำหรับตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เช่น Wi-Fi, GPS, เสียง หรือ Bluetooth เป็นต้น

การแตะปุ่มเมนู 1 ครั้ง เป็นการเข้าสู่เมนู Multitasking นั่นเอง ผู้ใช้สามารถเลือกเพื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชันที่เคยเปิดใช้งานมาแล้วก่อนหน้านั้น หรือลบออกเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่ม RAM ให้กับตัวเครื่องด้วย

ในส่วนของหน้า Homescreen ผู้ใช้สามารถเลือก Widget, แอปพลิเคชัน หรือเปลี่ยนวอลเปเปอร์ได้ตามใจชอบ

การกดปุ่ม Home 2 ครั้ง จะเข้าสู่ Google Now ค้นหาข้อมูลต่างๆ ตามที่ต้องการ เช่น สภาพอากาศ, สภาพการจราจร หรือสถานะเที่ยวบิน ซึ่ง Google Now จะพยายามคาดเดาว่า ผู้ใช้ต้องการทราบข้อมูลอะไรบ้าง โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องบอกให้ทราบก่อน

ส่วนการกดปุ่ม Home ค้างไว้ จะเข้าสู่ฟังก์ชัน S Voice ระบบการสั่งการด้วยเสียง แบบเดียวกับ Siri บน iOS นั่นเอง

โหมด Ultra Power Saving Mode ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง แม้แบตเตอรี่จะเหลือแค่ 10%

มาดูกันที่หน้าแอปพลิเคชันรวมกันบ้าง จะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Alpha รุ่นนี้ มีแอปพลิเคชันพื้นฐาน มาให้อย่างครบครันเลยทีเดียว แต่ถ้ายังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ที่ Play Store

บน Samsung Galaxy Alpha นั้น มีเบราว์เซอร์ให้เลือกใช้งาน 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ Android Browser และ Chrome แต่ถ้าหากยังไม่ถูกใจ สามารถดาวน์โหลดเบราว์เซอร์เพิ่มเติมได้ ที่ Play Store

S Health แอปพลิเคชันจัดการด้านสุขภาพ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก โดยจะใช้คู่กับ Heart Rate Sensor หรือเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่องนั่นเอง

Samsung Galaxy Alpha นั้นมาพร้อมกับระบบ GPS และ A-GPS ในตัว สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันประเภทการนำทางได้ทันที รวมถึงแอปพลิเคชัน ในเครื่องอย่าง Google Maps ด้วยเช่นเดียวกัน

Weather แอปพลิเคชันสภาพอากาศ ตรวจสอบสภาพอากาศแบบรายชั่วโมง และยังสามารถดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้อีกด้วย

แอปพลิเคชันพื้นฐานอย่าง เครื่องคิดเลข และเครื่องบันทึกเสียง ก็มีให้ใช้บน Samsung Galaxy Alpha เช่นกัน ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติมครับ

ทดสอบการเล่นเกมกันบ้างครับ Samsung Galaxy Alpha รุ่นที่ได้มาทดสอบนี้ มาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Exynos 5 Octa 5430 (ประกอบด้วย ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A15 1.8 GHz + Quad-Core ARM Cortex-A7 1.3 GHz) และหน่วยประมวลผลภาพ Mali-T628 MP6 แน่นอนว่า สามารถเล่นเกมได้อย่างสบายๆ รองรับการใช้งานด้านบันเทิงทุกรูปแบบ

มาทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 23613 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 49554 คะแนน เรียกได้ว่า แรงกว่า Samsung Galaxy S5 และ Samsung Galaxy Note 3 เสียอีก

ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 9 จุดครับ

รีวิว Samsung Galaxy Alpha : ทดสอบกล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

Samsung Galaxy Alpha มาพร้อมกล้องด้านหน้า ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ทั้ง อัตโนมัติ, หน้าสวย, ช็อตและอื่นๆ, พาโนรามา, Virtual Tour และกล้องคู่ ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดโหมดการถ่ายภาพเพิ่มเติมได้

ส่วนฟังก์ชันการใช้งาน ก็มีให้ตั้งค่ามากมาย เช่น ขนาดรูปภาพ, ถ่ายภาพรัว, เปิดระบบตรวจจับใบหน้า, เลือกจุดโฟกัส, ใส่เอฟเฟกต์, ตั้งเวลาถ่ายภาพ, HDR, สมดุลสีขาว และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมี Selective Focus (โฟกัสที่เลือก) สามารถปรับแต่งการถ่ายภาพแบบหน้าชัด หลังเบลอได้

ลองชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล บน Samsung Galaxy Alpha กันครับ

รีวิว Samsung Galaxy Alpha : บทสรุปการใช้งาน

สำหรับ Samsung Galaxy Alpha นั้น ถือว่า เป็น มือถือซัมซุง ที่มาพร้อมกับดีไซน์หรูหรา ด้วยกรอบตัวเครื่องแบบโลหะ (Metal Frame) ทำให้ Samsung Galaxy Alpha เป็นมือถือซัมซุงที่ดีไซน์สวยที่สุดในตอนนี้ ส่วนสเปคนั้น ถือว่า น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (ประกอบด้วย ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A15 1.8 GHz + Quad-Core ARM Cortex-A7 1.3 GHz), RAM 2 GB, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และรัน Android 4.4.4 (KitKat) ตั้งแต่แกะกล่อง นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) ที่ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย ทำให้ Samsung Galaxy Alpha รุ่นนี้ เป็นมือถือที่น่าสนใจอีกรุ่นในตอนนี้

ส่วนราคาของ Samsung Galaxy Alpha นั้น เรียกได้ว่า เคาะราคามาได้น่าตกใจพอสมควรครับ อยู่ที่ 20,900 บาท หลายท่านมองว่า เป็นราคาที่สูงเกินไป แต่ถ้าชื่นชอบดีไซน์หรูๆ แบบนี้ ไม่น่าพลาดครับ

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Alpha

• ฉีกแนวทุกดีไซน์ของมือถือซัมซุง ด้วยกรอบตัวเครื่องแบบโลหะ (Metal Frame) ทำให้ตัวเครื่องดูหรูหรา มีสไตล์
• ฝาด้านหลังเป็นพลาสติก บุด้วยหนังเทียมลายจุด แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S5 (แต่ลวดลายถี่กว่า) ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน
• จอแสดงผลกว้าง 4.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (320 ppi)
• ชิปเซ็ต Exynos 5 Octa 5430 (ประกอบด้วย ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A15 1.8 GHz + Quad-Core ARM Cortex-A7 1.3 GHz)
• RAM 2 GB
• หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB
• รัน Android 4.4.4 (KitKat) เวอร์ชันล่าสุด ตั้งแต่แกะกล่อง
• แบตเตอรี่ขนาด 1860 mAh
• ระบบสแกนลายนิ้วมือในตัว (Fingerprint Scanner)
• มี Heart Rate Sensor วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่อง สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ โดยใช้ควบคู่กับแอปพลิเคชัน S Health
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และฟีเจอร์ Selective Focus ปรับหน้าชัด หลังเบลอได้
• รองรับเทคโนโลยี NFC
• รองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K
• มีโหมด Ultra Power Saving Mode ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง แม้แบตเตอรี่จะเหลือแค่ 10% 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
• ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้
• ความละเอียดของหน้าจอแสดงผล ยังไม่ใช่ระดับ Full HD 1080p
• ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับ มือถือที่มีสเปคใกล้เคียงกัน

ข้อควรทราบ: “เครื่อง Samsung Galaxy Alpha ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ซัมซุง เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”