วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รีวิว Samsung Galaxy Note 4 มาแล้ว! ที่สุดของสมาร์ทโฟนเพื่อการขีดเขียน มาพร้อมกล้องหน้า 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมหน้าจอที่คมชัดกว่าเดิม จำหน่ายแล้วในราคา 25,900 บาท


เคาะราคาในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note 4 ที่ 25,900 บาท ที่เรียกได้ว่า เป็นราคาที่หลายๆ ท่าน คงจะคาดเดากันไว้อยู่แล้วอย่างแน่นอน  ได้มีโอกาสสัมผัส Samsung Galaxy Note 4 ตัวจริงกันแล้ว เลยขอนำมารีวิว และบอกเล่าประสบการณ์ใช้งานให้ได้รับทราบกัน
สำหรับจุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 4 นั้น คงจะเป็น ดีไซน์ของตัวเครื่อง ที่ถูกออกแบบให้ดูหรูหราขึ้น เนื่องจากกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะ (Metal Frame) แบบเดียวกับ Samsung Galaxy Alpha นั่นเองครับ ซึ่งใครที่เริ่มเบื่อๆ กับวัสดุเดิมๆ ของ มือถือซัมซุง แล้ว ลองมาสัมผัสกับ Samsung Galaxy Note 4 กันดู แล้วจะพบกับความแปลกใหม่กว่าที่เคยแน่นอน
สเปค Samsung Galaxy Note 4
- จอแสดงผลกว้าง 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (QHD) (515 ppi)
- หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Exynos 5 Octa 5433 chipset) ความเร็ว 1.9 GHz (ประกอบด้วย 1.9 GHz Quad Core + 1.3 GHz Quad-Core)
- หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU
- RAM 3 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้างสูงสุด 120 องศา และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบป้องกันการสั่นแบบ Smart OIS
- รัน Android 4.4.4 (KitKat)
- แบตเตอรี่ขนาด 3220 mAh

รีวิว Samsung Galaxy Note 4 : ดีไซน์ และ การออกแบบ

Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen ซึ่งขนาดหน้าจอเท่ากับ Samsung Galaxy Note 3 แต่ปรับความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 2560 x 1440 พิกเซล หรือความละเอียดแบบ QHD นั่นเอง
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา, เซ็นเซอร์ต่างๆ และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้างสูงสุด 120 องศา และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ส่วนด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มเมนู และปุ่มย้อนกลับ ซึ่งเป็นปุ่มแบบสัมผัส ส่วนตรงกลาง เป็นปุ่ม Home ซึ่งเป็นตำแหน่งของ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือ Fingerprint Scanner นั่นเอง และเนื่องจาก เครื่องที่นำมารีวิวนั้น ไม่ใช่ตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง จึงมีลวดลายปรากฏทั้งด้านบนและด้านล่าง แต่เครื่องที่วางจำหน่ายจริง จะไม่มีครับ
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อคหน้าจอแสดงผล ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง ซึ่งจากรูป จะเห็นว่า ขอบตัวเครื่องเป็นโลหะที่เคลือบสีไว้อีกที คล้ายกับ Samsung Galaxy Alpha นั่นเอง
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงขณะบันทึกวีดีโอ และใช้สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ส่วนรูกลมๆ เล็กนั้น เป็น พอร์ตอินฟราเรด ทำให้ Samsung Galaxy Note 4 กลายเป็นรีโมตคอนโทรลได้
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปากกา S Pen, ไมโครโฟนตัวที่ 1 และ 2 ที่ทางซัมซุงเผยว่า จะช่วยทำให้การบันทึกเสียง คมชัดมากยิ่งขึ้น ส่วนตรงกลาง เป็นพอร์ต microUSB 2.0
กล้องด้านหลัง มาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบป้องกันการสั่นแบบ Smart OIS และข้างๆ ไฟแฟลช มีเซ็นเซอร์เพิ่มมา 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ กับ UV Sensor วัดความเข้มของแสง ซึ่งเซ็นเซอร์ทั้ง 2 ตัวนี้ จะใช้คู่กับแอปพลิเคชัน S Health นั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้น ตำแหน่งของเซ็นเซอร์ ยังสามารถใช้เป็น ชัตเตอร์ ได้ เมื่อถ่ายรูปด้วยกล้องด้านหน้าครับ
Samsung Galaxy Note 4 สามารถถอดแกะฝาหลังได้ ประกอบด้วย แบตเตอรี่ขนาด 3220 mAh, รองรับซิมการ์ดแบบ microSIM ส่วน microSD Card รองรับสูงสุด 64 GB
รีวิว Samsung Galaxy Note 4 : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น
Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งลูกเล่น และอินเทอร์เฟสต่างๆ ยังคงเป็นมาตรฐานเดิมๆ ของซัมซุง เช่น ปัดเพื่อปลดล็อค แต่บน Samsung Galaxy Note 4 ได้เพิ่มการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือเข้ามา แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S5 ที่สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุด 3 นิ้ว
ในส่วนของหน้าแอปพลิเคชันรวม ถือว่า ยังคงจัดหนัก จัดเต็ม เหมือนเช่นเคย โดยทางซัมซุง ได้ใส่แอปพลิเคชันที่จำเป็นต่อการใช้งานไว้ในตัวเครื่องแล้ว ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติม แต่ถ้าหากยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน สามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้ที่ Play Store หรือ Samsung Apps
การแตะปุ่มเมนู 1 ครั้ง เป็นการเข้าสู่เมนู Multitasking นั่นเอง ผู้ใช้สามารถเลือกเพื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชันที่เคยเปิดใช้งานมาแล้วก่อนหน้านั้น หรือลบออกเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่ม RAM ให้กับตัวเครื่องด้วย
Notification Center แหล่งแจ้งเตือนการใช้งานต่างๆ ทั้งข้อความ, อีเมล หรือการอัพเดทแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ ยังมีเมนูลัด สำหรับตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เช่น Wi-Fi, GPS, เสียง หรือ Bluetooth เป็นต้น
การกดปุ่ม Home 2 ครั้ง จะเข้าสู่ Google Now ค้นหาข้อมูลต่างๆ ตามที่ต้องการ เช่น สภาพอากาศ, สภาพการจราจร หรือสถานะเที่ยวบิน ซึ่ง Google Now จะพยายามคาดเดาว่า ผู้ใช้ต้องการทราบข้อมูลอะไรบ้าง โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องบอกให้ทราบก่อน
ส่วนการกดปุ่ม Home ค้างไว้ จะเข้าสู่ฟังก์ชัน S Voice ระบบการสั่งการด้วยเสียง แบบเดียวกับ Siri บน iOS นั่นเอง
อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นครับว่า Samsung Galaxy Note 4 มีพอร์ตอินฟราเรด สำหรับใช้งานเป็นรีโมตคอนโทรล โดยจะใช้คู่กับแอปพลิเคชัน Smart Remote นั่นเอง
Samsung Galaxy Note 4 ได้มีการปรับปรุงความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึงระดับ 50% ในเวลาแค่ 30 นาที จากเวลาปกติที่ประมาณ 55 นาที นอกจากนี้ ยังมีโหมด Ultra Power Saving Mode หรือโหมดประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ ด้วยการเปลี่ยนหน้าจอเป็นขาวดำ ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง แม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือแค่ 10% ครับ
Multi Windows ฟีเจอร์การเปิดใช้งาน 2 แอปฯ บนหน้าจอเดียว ก็มีให้ใช้บน Samsung Galaxy Note 4 โดยผู้ใช้สามารถเลื่อนแอปฯ ไปมาได้ หรือย่อขยายก็ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถลากแอปฯ นึง ซ้อนทับอีกแอปฯ นึงได้อีกด้วย ไม่จำเป็นต้องแบ่งหน้าจอเหมือนแต่ก่อนก็ได้

ข้อมูลจาก:http://www.techmoblog.com/samsung-galaxy-note-4/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น